รักษาสิว สิวรักษายังไง ความรู้เรื่องสิวๆ ที่ได้ผลจริง
รักษาสิว แม้ว่าสิวจะไม่ส่งผลเสียกับร่างกายแต่อย่างใด แต่การที่มีปัญหาสิวเป็นระยะเวลานานนั้น ส่งผลเสียต่อสภาพจิตในหลายๆด้าน ทั้งความมั่นใจ ความวิตกกังวล รวมไปถึงปัญหาความเครียดด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สุดท้ายก็กลับมาส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของคุณอยู่ดี จริงไหมครับ?
การทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยังค้นพบว่า ผู้ที่มีปัญหาสิวอย่างต่อเนื่อง ระยะยาว ยังมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้สูงกว่าคนปกติอีกด้วย การ รักษาสิว นั้น ต้องทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ปกติก็เกิดปัญหาสิวได้ง่ายอยู่แล้ว (สำหรับผู้ที่ปกติไม่ค่อยมีปัญหาสิว
แต่ปัญหาสิวส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยภายนอก ถือว่าโชคดี เพราะถึงปล่อยไว้ รักษาบ้าง ไม่รักษาบ้าง ผิวหน้าก็จะกลับมาสู่สภาพปกติที่ไม่มีสิวเอง แต่อาจจะกินเวลานานหน่อยถ้าหากเทียบกับการรักษาอย่างถูกวิธี)
วิธี รักษาสิว พื้นฐาน ด้วยตัวคุณเอง
-
อาหารที่รับประทาน
กินอาหารประเภทนม เนย ชีส , อาหารจำพวกที่มีน้ำตาลสูง หรือ อาหารจำพวกที่มีมันมากๆ เพิ่มโอกาสการเป็นสิวมากขึ้น นักวิทศาสตร์แนะนำว่าให้ กินอาหารจำพวกต่อไปนี้ เพื่อผิวพรรณที่ดีขึ้น และ ยังช่วยลดปัญหาสิวลงด้วย
-
การล้างหน้า
ล้างหน้าวันละสองรอบ เช้าและก่อนนอน ไม่มากไปกว่านี้ – ใช้สบู่หรือคลีนเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิว , ใช้น้ำอุ่นๆในการล้างหน้า , ไม่ถูหน้าแรงจนเกินไป ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ benzoyl peroxide
-
ไม่บีบ แกะ แงะ กด สิว
การบีบ แกะ แงะ กด สิว หรือ วิธีอื่นๆที่ใช้กำลังทำให้หัวสิวออกมา วิธีพวกนี้อาจทำให้การติดเชื้อลึกลงไปถึงผิวหนังชั้นใน , ทำให้การอุดตันมีความนรุนแรงมากขึ้น , อาการบวมแดงและรอยดำหลังจากสิวหายแย่ลง แถมการบีบสิวนั้นอาจทำให้เกิดแผลเป็นแบบหลุมสิวอีกด้วย
-
ไม่เอามือจับใบหน้า
วิธีการป้องกันสิว ถึงรู้ทั้งรู้ และ พยายามที่จะไม่เอามือไปจับใบหน้า แต่รู้ไหมครับบางทีที่คุณเผลอ อาจเอามือไปจับใบหน้าได้โดยไม่รู้ตัว บางคนถึงกับเอามือไปบีบ ไปแกะสิว โดยไม่รู้ตัว
กรณีนี้รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือของคุณด้วย อย่าพยายามเอาไปสัมผัสกับผิวหน้า เพราะโทรศัพท์เต็มไปด้วยคราบมันที่ติดอยู่ รวมไปถึง สิ่งสกปรก และ แบคทีเรีย จำนวนมากอีกด้วย
-
ความสะอาดของมือคุณ
ล้างมือและเล็บของคุณเป็นประจำ ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ เพราะเล็บที่ยาวเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ที่สามารถไปอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดเป็นสิวอุดตันได้ในที่สุด
-
แว่นตาที่คุณใส่
การป้องกันสิว แว่นตาที่คุณใส่เป็นประจำนั้น หากไม่ทำความสะอาดดีๆ จะเป็นที่สะสมของสิ่งสกปรกและคราบมัน และ ผิวหนังกำพร้าเล็กๆที่ตายแล้ว ซึ่งสุดท้ายจะกลายเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิวในที่สุด
-
ผม
ผมบังหน้า ทำให้เป็นสิว ถ้าคุณเป็นคนผมยาว ควรรักษาผมให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะ เส้นผมเต็มไปด้วย sebum (น้ำมันตัวเดียวกับน้ำมันบนใบหน้า) ซึ่งหากผมยาวจนลงมาปกปิดใบหน้า จะกลายเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิวได้เช่นกัน
-
โกนหนวด กันคิ้ว
ป้องกันสิว หากจะโกนหรือกัน ควรทำด้วยอุปกรณ์ที่มีใบมีดแหลมคม และอย่าขี้เหนียวไม่ยอมเปลี่ยนใบมีดเมื่อทู่แล้ว (รู้นะว่า ผู้ชายหลายๆคนเป็นกัน) เพราะนอกจากจะทำให้เกิดการระคายเคืองแล้ว ยังอาจทำให้เกิดบาดแผลได้
ที่สำคัญก่อนโกนหนวด หรือ กันคิ้ว ควรใช้น้ำอุ่นชโลมผิวหน้า ในส่วนที่ต้องการโกนก่อน เพราะจะทำให้ผิวหน้านุ่มขึ้น ง่ายต่อการโกน โดยไม่เกิดการระคายเคือง
วิธี รักษาสิว โดยใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว
สิวผดเล็กๆ สิวอุดตัน สิวอักเสบ แบบที่ยังไม่รุนแรง สามารถรักษาได้ด้วยการใช้เพียงผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีขายทั่วไป ไม่จำเป็นที่ต้องวิ่งเข้าคลีนิคให้เสียเงินเป็นจำนวนมากเสมอไป
หากคุณมีปัญหาสิวที่รักษาด้วยการดูแลตัวเองเบื้องต้นแบบข้างบนไม่ได้ผล แถมสิวยังผุดขึ้นมาเรื่อยๆโดยไม่มีทีท่าว่าจะหาย ควรมองหาทางออกที่ต้องเสียเงินกันบ้าง ด้วยการซื้อผลิตภัณฑ์ยารักษาสิว หรือต้องหา วิธีการ รักษาสิวอักเสบ มาใช้
ผลิตภัณฑ์ที่สามารถรักษาสิวได้ จะมีส่วนผสมต่อไปนี้
- Benzoyl Peroxide
เป็นตัวฆ่าสิวที่นิยมที่สุด ทั้งครีมรักษาสิวตามเคาน์เตอร์และครีมหมอมักใส่ Benzoyl Peroxide เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการขจัดและป้องกันปัญหาสิว
Benzoyl Peroxide ทำงานโดยการเติม Oxygen ให้รูขุมขน ( P.acne แบคทีเรียตัวการทำให้เกิดสิว อยู่ไม่ได้ในสภาพแวดล้อมที่มี oxygen สูง) ทำให้ p.acne ตาย อีกประการคือช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้ไม่อุดตันรูขุมขน ลดโอกาสในการอุดตัน
** อย่าให้ครีมที่มี Benzoyl Peroxide โดนเสื้อผ้า เพราะจะทำให้เสื้อผ้าสีซีดลง **
อาการข้างเคียงมักทำให้ผิวหนังแห้งเกินไป อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย >> ปัญหานี้ลดได้ด้วยการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์แบบ oil-free
- Resorcinol and Sulfur
Resorcinol และ Sulfur มักใช้คู่กันใน การรักษาสิว ช่วยในการสลายผิวหนังที่ตกสะเก็ด หรือ ตายแล้ว , ช่วยสลายสิวอุดตัน และ ช่วยป้องกันไม่ให้สิวอุดตันก่อตัวใหม่
อาการข้างเคียงมักทำให้ ผิวแห้งผิดปกติ , เกิดรอยแดง คัน
- Salicylic Acid
Salicylic Acid เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่เป็นสิวขั้นเริ่มต้น ทั้งสิวผด สิวอุดตัน สิวที่ยังไม่อักเสบ เป็นส่วนประกอบในพวกโฟมล้างหน้ารักษาสิว โทนเนอร์และ ครีมต่างๆ
ช่วยในเรื่องของการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว, สิ่งแปลกปลอม , และแบคทีเรีย ช่วยให้รูขุมขนสะอาดไม่อุดตัน
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Salicylic Acid เป็นส่วนประกอบ ควรใช้ทั่วใบหน้า ไม่ใช่ใช้แต้มเฉพาะจุดที่เกิดสิว
** หญิงมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid **
ผลข้างเคียงจะทำให้เกิดอาการคัน รู้สึกแสบ (จะหายไปหากใช้หลายๆครั้ง) และทำให้ผิวหนังแห้งกว่าปกติ
- Retin-A
Retin-A รักษาสิว เป็นส่วนประกอบที่ช่วยทั้งในเรื่องการรักษาสิว และ ช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัยได้เป็นอย่างดี แต่กว่าจะเห็นผลนั้นค่อนข้างนาน และ มีผลข้างเคียงที่รุนแรงในช่วงแรก บางคนจึงหยุดใช้ซะก่อนที่มันจะเห็นผล Retin-A นั้นจะทำการผลัดผิวใหม่ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
แต่กว่าจะเห็นผลอาจจะต้องทนกับผลข้างเคียงอยู่เป็นเดือน ทั้งเรื่องของผิวแห้ง, หน้าบางลง, สิวใหม่ขึ้นอีก แต่เชื่อเถอะว่าหากใช้ไปได้ถึง 3 – 4 เดือน จะเห็นผลลัพธ์ที่ได้ผลจริง ทั้งเรื่องผิวที่ดีขึ้นและปัญหาสิวที่ลดลง หากต้องการใช้ Retin-A ควรใช้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ หลังจาก สิวหายแล้ว (เช่นเดียวกับยารักษาสิวตัวอื่น)
- Azelaic Acid
Azelaic Acid นอกจากจะช่วยเรื่องของการขจัด p.acne , ผลัดเซลล์ผิว และช่วยให้รูขุมขนสะอาดแล้ว ยังช่วยในเรื่องทำให้ผิวสว่าง ขาว ใส ขึ้นอีกด้วย
ผลข้างเคียงนั้นเหมือนกับยารักษาสิวตัวอื่น เช่น หน้าจะแห้ง, อาจเกิดอาการแดง ระคายเคืองใน 1-2 ครั้งแรกที่ใช้ การใช้ครีมทาที่มีส่วนผสมของ Azelaic Acid ควรใช้ให้ทั่วใบหน้า ไม่ควรใช้เฉพาะจุดที่มีปัญหาสิว
- Niacinamide
วิตามินรักษาสิว Niacinamide หรือ Niacin อยู่ในจำพวกหนึ่งของ Vitamin B (Vitamin B3) ถูกใช้อย่างแพร่หลายในครีมต่างๆ เพราะมีส่วนช่วยปรับสภาพผิวให้ดีขึ้นในหลายๆด้าน ทั้งลดอาการอักเสบ ลดรอยแดง ทำให้ผิวขาวขึ้น รวมถึงลดปัญหาสิวอุดตันได้ด้วย Niacinamide หากใช้ในปริมาณที่พอเหมาะจะส่งผลดีกับสภาพผิวเป็นอย่างมาก แต่ไม่ควรใช้มากเกินไปเพราะอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี
ผลข้างเคียงยังไม่แน่ชัด แต่ในผู้ใช้บางรายพบว่าการใช้ Niacinamide ทำให้ผิวแห้งกว่าปกติ
คุณไม่จำเป็นต้องใช้หลายๆผลิตภัณฑ์ในครั้งเดียวเพื่อให้ได้ส่วนผสมครบตามข้างบน การทำแบบนั้นไม่ได้ส่งผลดีต่อผิวคุณเลย นอกเสียจากจะทำให้ผิวเราแห้งและระคายเคืองเกินไป . . . ปกติของยา รักษาสิว มักจะทำให้ผิวแห้ง การใช้ผลิตภัณฑ์ รักษาสิว มากเกินไปจะทำให้ผิวแห้งเกินไป เกิดการผลัดผิวมากเกินไป หรือเกิดผื่นแดงบนใบหน้า
ควรจะเริ่มต้นด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์แค่อย่างเดียว หรือจะค่อยๆเพิ่มตัวที่สองไปก็ได้หากคิดว่าใช้แค่อย่างเดียวไม่ได้ผล ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย แพ้ง่าย ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษในการใช้ ยารักษาสิว . . . . อย่าลืมนะครับ เริ่มจากแค่ 1 ผลิตภัณฑ์
ถ้าอยากให้การรักษาสิวได้ผลสูงสุด คุณต้องเข้าใจลักษณะของสิวที่คุณเป็นก่อน
สำหรับสิวไม่อักเสบ หรือ สิวอุดตัน หัวดำ หัวขาว – Salicylic Acid เป็นทางออกที่ดีสำหรับสิวประเภทนี้ ใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนประกอบเป็น Salicylic Acid จะช่วยได้ แต่ถ้าหากใช้ไป 2-3 อาทิตย์ยังไม่เห็นผลใดๆเลย อาจจะเพิ่มครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนประกอบของ สารประกอบรักษาสิวตัวอื่นไปด้วยก็ได้
สำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดสิวอักเสบ – ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Benzoyl Peroxide เป็นตัวเริ่มต้นที่ดี ใช้ผลิตภัณฑ์โดยทำตามวิธีใช้ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ หากไม่ได้ผล ลองใช้ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆร่วมด้วยก็ได้ เช่น โทนเนอร์เช็ดหน้า หรือ ครีมทาหน้าที่มีส่วนผสมของยา รักษาสิว ตัวอื่นๆ ที่สำคัญนะครับ . . . การใช้ผลิตภัณฑ์ รักษาสิว ทุกชนิดนั้น ต้องใช้อย่างพอดี หากพบว่า การใช้ทำให้เกิดความรู้สึกว่าหน้าแห้งเกินไป หรือ เกิดการระคายเคืองเกินไป ควรลดการใช้ลง
วิธี รักษาสิว โดยปรึกษาและใช้ผลิตภัณฑ์ของแพทย์ผิวหนัง
หากการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวไม่เพียงพอที่จะเยียวยาปัญหาสิวของคุณได้ แนะนำว่าให้พบแพทย์ผิวหนังตามคลีนิค เพื่อหาวิธีการรักษาหรือยาที่ต้องออกโดยแพทย์เท่านั้น (แต่ต้องยอมรับผลข้างเคียงที่จะตามมาจากยาที่มีผลรักษารุนแรงด้วย ซึ่งปกติหมอจะไม่ค่อยบอกเกี่ยวกับอาการข้างเคียงที่จะตามมาหรอก) ซึงการไปหาหมอตามคลีนิคนั้นควรศึกษาให้ดีซะก่อน ว่าคลีนิคทีจะไปน่าเชื่อถือแค่ไหน มีรีวิว มีหลักฐาน มีเสียงตอบรับที่ดี หรือเปล่า เพราะอาจมีบางคลีนิคมักง่ายใช้สเตียรอยด์ในการรักษา ซึ่งทำให้หายในระยะแรก แต่ซักพักสิวจะกลับมาเห่อยิ่งกว่าเดิม
-
ยาแต้มสิวโดยแพทย์
ยาแต้มสิวโดยแพทย์นั้นส่วนใหญ่สกัดมาจาก Vitamin A ซึ่งมีผลข้างเคียงต่อผิวค่อนข้างรุนแรง และ มีหลายขนาน เช่น tazarotene, adapalene, tretinoin, dapsone gel
บางขนานอาจจะได้ผลกับบางคน หรือ อาจจะไม่ได้ผลเลยกับบางคน ต้องปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อน เพื่อที่แพทย์จะได้วินิจฉัยถูกว่าควรใช้ตัวยาตัวไหน
ผลข้างเคียงนั้นคล้ายๆกับยารักษาสิวตามเคาน์เตอร์ แต่จะมีอาการรุนแรงกว่าในบางราย เช่น ผิวหนังลอก , เกิดอาการคัน และ ระคายเคือง , แสบ, ผิวแห้งมาก / ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด และต้องบอกแพทย์ทันทีหากเกิดอาการข้างเคียงข้างต้น
-
ยาปฏิชีวนะ ( Antibiotic )
ยาปฏิชีวนะเอาไว้รับประทานออกโดยแพทย์ และมักถูกออกพร้อมกับยาแต้มสิวเสมอ บางคอร์สอาจกินระยะเวลานานถึง 4-6 เดือนเลยทีเดียว และตัวยาบางชนิดเช่น tetracyclines นั้น หากรับประทานแล้ว ต้องไม่ออกไปถูกแสงแดดมากเกินไป
การกินยาปฎิชีวนะ ต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ตลอด อย่าซื้อยาเถื่อนมาใช้เอง เพราะผลข้างเคียงรุนแรง และหากใช้ไปนานๆจะเกิดอาการดื้อยาได้
** ห้ามใช้เด็ดขาดในกรณีที่มีครรภ์ **
-
Isotretinoin (รับประทาน)
ใช้ในกรณีที่ปัญหาสิวมีอาการรุนแรงมาก เช่น หัวสิวมีลักษะเป็นซีสอยู่ลึกมาก ลงไปในชั้นผิวหนัง ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาดูแลเป็นอย่างดีจากแพทย์ผิวหนัง Isotretinoin นั้นต้องได้รับการจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น และแพทย์ต้องดูแลอาการอย่างใกล้ชิด เพราะว่ามีการพบผลข้างเคียงที่รุนแรงกับผู้ใช้ยาตัวนี้
ชื่อทางการค้าที่บางคนใช้เรียกชื่อแทน Isotretinoin ก็มี Roaccutane (โรแอคคิวเทน), Acnotin (แอคโนทิน), Sotret (โสเตรส), Isotane (ไอโสเทน) เป็นต้น
เป็นอนุพันธุ์ของกรดวิตามินเอ ที่มีข้อบ่งชี้ในการรักษาสิวที่มีอาการรุนแรง ที่ไม่สามารถควบคุมอาการ ได้จากการรักษาอื่นๆ หรือสิวชนิดที่มีแผลเป็น กลไกการออกฤทธิ์ของ isotretinoin โดยรวม คือ ยาจะทำหน้าที่ยับยั้งสาเหตุของการเกิดสิว เช่น กดการทำงานของต่อมไขมันทำให้ผลิตสารที่เป็นไขมันน้อยลง , ลดปริมาณเชื้อแบคทีเรีย P. acnes , ลดการอักเสบของสิว และยับยั้งการก่อตัวของสิวอุดตัน
**การรักษาสิวด้วยวิธีนี้ห้ามใช้กับผู้หญิงที่ตั้งครรณ์**
ผลข้างเคียงที่เห็นได้ชัดจากการรับประทานยาตัวนี้คือผิวแห้ง ปากแห้งมาก /// บางการศึกษาพบว่าการใช้ Isotretinoin มีผลข้างเคียงทำให้ เป็นโรคซึมเศร้าและมีโอกาสฆ่าตัวตายได้!! (น่ากลัวจัง) //// แต่บางการศึกษาพบว่า ปัญหาสิวที่รุนแรงต่างหากที่ก่อให้เกิดโรคซึมเศร้า อันนี้ลองปรึกษาแพทย์ที่ไปพบดูว่าควรใช้การรักษาสิววิธีนี้หรือไม่ และ ถ้าจำเป็นต้องดูแลตัวเองอย่างไร ระหว่างที่ใช้ยา
-
ยาคุมกำเนิด
ผู้หญิงที่มีปัญหาสิว เมื่อได้รับยาคุมกำเนิดจำพวก norgestimate และ ethinyl estradiol ปัญหาสิวอาจทุเลาลง
ผลข้างเคียงนั้น คือ โอกาสการเกิดความดันโลหิตสูง, เส้นเลือดอุดตันและโรคหัวใจเพิ่มขึ้น
-
เลเซอร์ และ การรักษาด้วยแสง
การรักษาด้วยเลเซอร์และการรักษาด้วยแสง เน้นการทำลาย p. acne (แบคทีเรียในผิวหนังตัวการที่ทำให้เกิดสิว) การรักษาสิว ด้วยวิธีนี้ลงลึกไปถึงผิวชั้นใน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังชั้นนอกแต่อย่างใด ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการรักษาด้วยวิธีนี้นอกจากจะฆ่า p. acne แล้ว ยังกระตุ้นต่อนไขมันในรูขุมขนให้ผลิต sebum น้อยลง
ส่วนผลข้างเคียงนั้นยังสรุปไม่ได้ ยังเป็นประเด็นอยู่ว่ามีอันตรายต่อผิวหนังมากน้อยเพียงใด เพราะฉะนั้นหากอยากใช้วิธีนี้ลองปรึกษาคลีนิคที่ตัดสินใจไปทำดูนะ
-
การดูดสิวโดยแพทย์
แพทย์ผิวหนังจะทำการเอาหัวสิวออกด้วยการใช้เครื่องดูดสิว วิธีการนี้ถ้าปัญหาสิวอื่นๆไม่ได้ผลเลย การใช้เครื่องดูดสิวนั้นยังลดความเจ็บปวด และ ลดการทิ้งร่องรอยแผลเป็นด้วย ถ้าหัวสิวต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน แพทย์อาจจะรักษาด้วยการฉีดยาสเตรอยด์
อะไรทำให้ปัญหาสิวแย่ลง
-
รอบเดือน
ผู้หญิงที่มีปัญหาสิว มักพบว่าปัญหาสิวจะหนักขึ้น 1-2 สัปดาห์ ก่อนมีประจำเดือน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
-
ความเครียดและการกังวล
ระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเกิดสิว เช่น adrenaline และ cortisol อาจถูกทำให้เปลี่ยนแปลงได้โดยความเครียดและการกังวลต่อสิ่งต่างๆ ฮอร์โมนทั้งสองนั้นส่งผลลบให้ปัญหาสิว
-
สภาพอากาศ
สภาพอากาศมีผลกับปัญหาสิวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ที่สภาพอากาศทำให้เหงื่อออกง่าย (เมืองไทยนี่แหละ) ปัญหาสิวจะเกิดขึ้นง่ายและรักษาได้ยากขึ้น หากอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนชื้น
-
เครื่องสำอางบางประเภท
เครื่องสำอางบางประเภทหากล้างไม่สะอาด จะทำให้สิวเห่อขึ้นมาได้หากใช้ไปนานๆ
-
ความมันของเส้นผม
ผมที่มันและผลิตภัณฑ์บำรุงผมบางชนิดที่ใส่พวก cocoa และ coconut butter อาจจะทำให้ปัญหาสิวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากความมันอาจลงไปโดนผิวหน้าทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนได้
-
การบีบ แกะ แงะ สิว
อันนี้คงรู้กันดีว่าทำให้ปัญหาสิวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทำให้การติดเชื้อลึกลงไป และอาจทำให้แผลเป็นหลังจากสิวหายเพิ่มมากขึ้นด้วย
บทความนี้เกี่ยวกับการรักษาสิวล้วนๆ พวกส่วนผสมต่างๆจำไว้คร่าวๆ เอาไว้ดูหลังผลิตภัณฑ์ว่ามีตัวไหนมั่ง มีวิธีใช้ยังไง รู้ไว้ใช่ว่านะจ๊ะ ยังไงมีความรู้เกี่ยวกับพวกนี้ไว้ก็มีประโยชน์ หรือหากใครที่ไม่มีสิว วันไหนมีสิว กลับมาอ่านก็ยังไม่สาย
วันนี้เว็ปไซต์ Patcharapa ของเราก็ขอลาไปก่อน เอาไว้บทความต่อๆไปจะมาเสนอเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับความสวย ความงาม ให้ได้อ่านกันอีกนะจ๊ะ