ทำไมส้นเท้าถึงแตก

ทำไมส้นเท้าถึงแตก

Table of Contents

ทำไมส้นเท้าถึงแตก

ทำไมส้นเท้าถึงแตก สาเหตุที่ส้นเท้าแตกนั้นมีหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเท้าแห้งเกินไป เดินมากเกินไป ใช้งานเท้ามากเกินไป หรืออาจจะโดนสารเคมีกัดเท้า เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุผลใด ไม่มีใครอยากส้นเท้าแตกลายงาแน่นอน หลายๆคนที่ส้นเท้าแตกก็เป็นกังวลกันมากมาย ทั้งหาครีมกันส้นเท้าแตกมาทา หาโลชั่นมาทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น หายามาทาบ้าง ไปหาหมอบ้าง เพราะว่ากลัวจะเท้าไม่สวย ใส่รองเท้าเปิดส้นก็อาย แต่รู้ไหมว่าการป้องกันส้นเท้าแตกนั้นมีหลากหลายวิธีด้วยกัน อีกทั้งยังสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปพึ่งคนอื่นแม้แต่น้อย

เรื่องของส้นเท้า

บริเวณส้นเท้าของมนุษย์เราทุกคนจะประกอบไปด้วยหลายส่วน ส้นเทาเป็นส่วนหนึ่งของบริเวณหลังเท้า ประกบไปด้วยเส้นเลือด เส้นประสาท และผิวหนังหลายชั้นด้วยกัน  ไม่ว่าจะชั้นหนังแท้ที่ซ่อนอยู่ภายใน หรือชั้นหนังกำพร้าที่คือหนังด้านนอก ที่เราเห็นตั้งแต่ภายนอก และคือส่วนที่มันมีปัญหาการแตกนั่นเอง ซึ่งปกตแล้วหนังกำพร้าจะมีการผลัดเซลล์ผิวไปเรื่อยๆ หากเราดูแลดี ผิวหนังที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ก็จะมีสุขภาพดี มีความแข็งแรง นุ่มนวล แม่แข็ง ไม่กระด้างและมีโอกาสที่ส้นเท้าจะแตกยากกว่าการที่ไม่เคยดูแลเลย  แต่ก็อยู่ที่ผิวของคนแต่ละอีกด้วย ซึ่งคนเราเกิดมีสภาพผิวที่ต่างกัน บริเวณส้นเท้าของเรานั้นมีความหนาค่อนข้างมาก ทำหน้าที่หลายอย่างทั้งรับน้ำหนัก โดนเชื้อโรค แลพความสกปรก หากสะสมไว้นานอาจทำให้เกิด โรคผิวหนังได้ ดังนั้นจึงควรสังเกตและป้องกันโรคผิวหนังคัน รวมไปถึงเชื้อราที่อาจะเกิด

ส้นเท้าแตก

ปัญหาส้นเท้าแตก

ส้นเท้าแตก ใครที่เคยได้ประสบการมีปัญหาส้นเท้าแตกมาบ้างแล้ว รับรองว่าเครียดกันเป็นแถว ยิ่งหน้าหนาวแล้ว ก็มีโอกาสเกิดส้นเท้าแตกได้อย่างสูง กว่าสภาพอากาศอื่นๆ โดยเมื่อเกิดขึ้นมามันก็จะมีความเจ็บแสบ ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งหลายคนไม่อยากเป็น เพราะเมื่อเกิดความเจ็บแสบมาแล้ว ก็จะทำให้ไม่อยากเดิน เดินลำบาก เป็นปัญหาอื่นๆต่อไปอีกไม่จบไม่สิ้น

วิธีการป้องกันเกี่ยวกับปัญหาส้นเท้าแตก

วิธีการป้องกันเกี่ยวกับปัญหาส้นเท้าแตกอย่างถูกต้อง

เมื่อเรารู้ว่าปัญหาการเกิดส้นเท้าแตกนั้น มันเกิดจากอะไรบ้าง เราก็พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งเรานั้น โดยมีวิธีป้องกันดังนี้

–          วิธีที่หนึ่ง เมื่อเราจะเป็นต้องใช้เท้าในการเดินทุกๆวัน ส้นเท้าเป็นส่วนหนึ่งของการรับน้ำหนักในการเดินมากที่สุด ดังนั้นหากคุณมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ก็จะทำให้ส้นสามารถเกิดปัญหาได้ง่ายกว่าเดิม ดังนั้น เริ่มต้นที่การควบคุมน้ำหนักของคุณ ไม่ให้มันมากเกินไป เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาแรกที่ส้นเท้าจะแตกนั่นเอง

–          วิธีที่สอง เลือกใส่รองเท้าที่มีความนุ่ม มากกว่ารองเท้าที่มีส้นแข็ง ใส่แล้วเจ็บ แบบนี้ไม่แนะนำ เพราะว่ายังไงรองเท้าก็เป็นสิ่งที่เราใส่ป้องกันเท้า เพื่อเดินไปนู่นไปนี่เสมอ หากใส่รองเท้าที่ไม่ดี มีรวดลายมากเกินไป เกินการเสียดสีระหว่างรองเท้ากับส้นเท้า จนเท้าด้าน พอด้านมากๆ ส้นเท้าก็จะแข็ง จากนั้นก็จะเกิดปัญหาส้นเท้าแตกขึ้นมา ดังนั้น แก้ปัญหาด้วยการเลือกซื้อรองเท้าที่เป็นมิตรกับเท้าของคุณจะดีที่สุด

–          วิธีที่สาม หมั่นหาครีมหรือโลชั่นมาบำรุงส้นเท้าอย่างสม่ำเสมอ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใส่รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าหุ้มส้นบ่อยๆ จะทำให้เกิดการเสียดสีจนส้นเท้ามีความแข็งกระด้าง แล้วยิ่งในหน้าหนาว บางคนผิวแตกไปจนถึงส้นเท้า ดังนั้น มีความชุ่มชื่นมาคอบหล่อเลี้ยง บำรุงส้นเท้าด้วยครีมหรือโลชั่นเสมอ โดยวิธีการทาครีมที่ถูกต้องคือการใช้ครีมนวดไปที่บริเวณส้นเท้าแล้วสวมถุงเท้าทับ รับรองว่าส้นเท้าของคุณไม่มีวันแตกลายงาอย่างแน่นอน

–          วิธีที่สี่ การยืน การนั่ง การนอน มีผลส่งต่อส้นเท้าเสมอ การนอนนั้นเป็นการที่เราแทบจะไม่ได้ใช้การทำงานของส้นเท้า แต่วันๆหนึ่งจะให้เรามานอนทั้งวันก็ไม่ได้ การนั่งก็เป็นการใช้ส้นเท้าน้อย นอกจากการยันพื้นขณะนั่งเก้าอี้ แต่จะไปนั่งตลอดเวลาไม่ไปไหนก็ไม่ใช่เรื่อง ส่วนการยืนแน่นอนว่าเป็นปัญหาใหญ่ของส้นเท้า เพราะว่าได้รับการรับน้ำหนักอย่างเต็มที่ สำหรับคนงานที่ต้องใช้งานยืนมากกว่าการนั่ง มักจะมีปัญหาส้นเท้าแตกอย่างนอน ดังนั้น ควรพักการยืนซะบ้าง ลดการยืนให้น้อยที่สุดเท้าที่จะทำได้

–          วิธีที่ห้า การทานอาหารอย่างมีประโยชน์ เรียกว่าเป็นการบำรุงตั้งแต่ภายใน เน้นการทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะการดื่มน้ำตามมากๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายในออกมาสู่ภายนอกทำให้ร่างกายของเรามีน้ำมีนวล ไปจนถึงส้นเท้า ทำให้ลดปัญหาส้นเท้าแตกลงได้

เมื่อส้นเท้าแตกไปแล้ว เราควรทำอย่างไร?

ก่อนจะบำรุงก็สายเกินไปซะแล้ว สำหรับคนที่ส้นเท้าแตก แต่ก็ยังพอมีหวังนะครับ มาดูกันเลยว่าถ้าหากส้นเท้าแตกไปแล้วพอจะมีวิธีใดบ้างที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้

1.ให้คุณนำเท้าที่มีเกิดปัญหาการส้นแตกนั้น ลงไปแช่ในน้ำอุ่น ที่มีอุณหภูมิพอเหมาะ ไม่ร้อน จัด หรือเย็นจัด จากนั้น ให้ใช้ที่ขัดส้นเท้าค่อยขัดบริเวณที่แตกด้วยความเบามือ เพื่อขัดหนังกำพร้าที่ตายด้านออกไป จากนั้นก็เช็ดเท้าให้แห้งที่สุดแล้วทาครีมบำรุงเท้า

2.เมื่อคุณกินกล้วยก็อย่าเพิ่งทิ้งเปลือก เพราะเปลือกกล้วยมีประโยชน์ ช่วยให้ส้นเท้าของคุณมีความชุ่มชื่นอย่างคาดไม่ถึง เพราะบริเวณเปลือกกล้วยนั้นมีกรดบางอย่างที่จะช่วยรักษาอาการส้นเท้าแตกได้อย่างยอดเยี่ยม

3.ผสมฟองสบู่กับน้ำในกะละมังแล้วแช่เท้าไว้ 15นาที จากนั้น ให้เช็ดน้ำออก แล้วผสมวาสลีนกับน้ำมะนาว 1ลูก ทาบริเวณส้นเท้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 30นาทีแล้วล้างออก จากนั้นบำรุงด้วยครีมทาส้นเท้า จำช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและสมานเท้าได้เป็นอย่างดี

4.สุดท้าย ใช้พาราฟินผสมกับเมล็ดมัสตาร์ด แล้วแว็กซ์เท้าข้ามคืน ด้วยการทาบริเวณส้นเท้าแตกให้ทั่ว พอตื่นก็ล้างออก ประมาณ 2อาทิตย์คุณจะพบว่าเท้าของคุณสวยงาม นุ่มเหมือนเด็กๆอย่างแน่นอน

และนี่ก็คือวิธีการแก้ไขปัญหาส้นเท้าแตก จะช่วยให้ส้นเท้าของคุณกลับมาสวยงามเหมือนเดิม แบบไม่ต้องเสียบุคลิคอีกต่อไป จะใส่รองเท้าเปิดส้นก็ไม่ต้องกังวล กลัวว่าจะต้องอายคนอื่นเหมือนที่เคยเป็น

Picture of Patcharapa Parnpradub

Patcharapa Parnpradub

พัช จบป.โทจากคณะวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ปัจจุบันทำงานอยู่ในบริษัทเครื่องสำอาง ทำหน้าที่ดูแลให้คำปรึกษาและควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จนมาเปิดเว็บไซต์ส่วนตัวเพื่อแนะนำและรีวิวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่น่าสนใจ พร้อมให้ความรู้และความเข้าใจในส่วนประกอบ ใครที่กำลังหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง ลองเข้ามาอ่านบทความหรือร่วมพูดคุยกับพัชกันได้นะคะ
Picture of Patcharapa Parnpradub

Patcharapa Parnpradub

พัช จบป.โทจากคณะวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ปัจจุบันทำงานอยู่ในบริษัทเครื่องสำอาง ทำหน้าที่ดูแลให้คำปรึกษาและควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จนมาเปิดเว็บไซต์ส่วนตัวเพื่อแนะนำและรีวิวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่น่าสนใจ พร้อมให้ความรู้และความเข้าใจในส่วนประกอบ ใครที่กำลังหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง ลองเข้ามาอ่านบทความหรือร่วมพูดคุยกับพัชกันได้นะคะ